วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

[แปลบทสัมภาษณ์] อีจงซอก High Cut August 2013 issue.



แสงแดดที่แผดเผาแห่งเดือนสิงหาคม  อีจงซอกกล่าวพร้อมกับใบหน้าที่ครุ่นคิดว่า  เขาได้มีแผนการพร้อมสำหรับทุกอย่างแล้ว  ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้  แม้แต่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นก็ยังโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ  ดังนั้นเราก็คงจินตนาการถึงสภาพของคนที่สวมเสื้อหนา ๆหลายตัวแล้วยังสวมแจ๊กเก็ตเข้าไปอีกได้ไม่ยากเลย  เมื่อเร็ว ๆนี้  อีจงซอกเพิ่งจะได้รับรู้ว่าเป็นความอดทนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุณหภูมิแบบนี้

ในเดือนกันยายน 2012  ‘The Face Reader’  ได้เริ่มถ่ายทำ  ในเดือนพฤศจิกายน ‘School 2013’ ก็ได้เริ่มต้น  และทั้งสองโปรเจคเสร็จสิ้นลงพร้อมกัน  กระบวนถ่ายทำในโรงเรียนจบลงเมื่อสิ้นสุดเดือนมกราคม  และ ‘The Face Reader’ จบลงเมื่อเดือนเมษายน  เขาก็เข้าร่วมการถ่ายทำภาพยนตร์ ‘No Breathing’ ในเดือนพฤษภาคมต่อทันที  ในขณะนั้น  ‘I Hear Your Voice’  ทางช่อง SBS ละครที่ได้รับการชื่นชมอย่างมากมายก็ได้เริ่มออกอากาศในเดือนมิถุนายน  เป็นอีกครั้งที่เขาต้องใช้ชีวิตไปกับการทำงานสองอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน  ต่อจากนั้นเมื่อ ‘I Hear Your Voice’  ได้รับความนิยมทำให้ต้องเพิ่มออกไปอีกสองตอน  เขาก็ต้องเริ่มการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ ‘Hot Blooded Youth’  โดยไม่ได้หยุดพักเลย

ช่วงเวลาระหว่างกันยายน 2012 ถึง สิงหาคม 2013  เขาได้แสดงละครสองเรื่อง  ภาพยนตร์สามเรื่อง  ในอีกแง่มุม ‘The Face Reader’ บทบาทที่เขาแสดงในทุกโปรเจคล้วนแต่เป็นนักแสดงนำ  เมื่อคุณ “อ่านใบหน้า” ของอีจงซอก  มันดูเหมือนว่าเขาจะ “ไม่หายใจ”  มาสักพักหนึ่งแล้ว  - ไม่มีเวลาหยุดพักให้หายใจเลย





ทีม IHYV ทั้งหมดได้พากันไปท่องเที่ยวเพื่อเฉลิมฉลอง  คุณเป็นคนเดียวที่โดนทิ้งเอาไว้  รู้สึกเสียใจหรือเปล่า
ผมต้องเดินทางไปฟิลิปินส์เพื่อถ่ายภาพยนตร์ครับ  พวกเขาโทรมาจากที่พักแล้วก็บอกให้ผมไปภูเก็ต  นักเขียนพัคฮเย-รยอนพูดกับผมว่า  “เพราะจงซอกไม่ได้อยู่ที่นี่  พวกเราเลยคุยกันไม่สนุกเลย  นายควรจะมาเดี๋ยวนี้เลย”  แม้ว่าผมจะอยากไปมากจริง ๆ แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำได้เลยครับ  ตอนนี้ไม่มีแม้แต่เวลาจะพัก  ผมก็แค่ต้องเดินหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ตอนที่ถ่ายละครเสร็จ  ผมจะรู้สึกอ้างว้างสักพัก  แต่ตอนนี้ไม่มีแม้กระทั่งช่องว่างให้อารมณ์แบบนั้นเลยครับ  ผมต้องไป ๆ มา ๆ ระหว่างกองถ่ายละครและภาพยนตร์ถึงสี่เรื่อง  รู้สึกเหมือนไม่สามารถจะมุ่งเป้าไปที่อย่างใดอย่างหนึ่งได้อย่างเต็มที่  นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีครับ  การถ่ายทำไปพร้อมกันสองเรื่องในเวลาเดียวกันดูเหมือนว่าจะนำผลกระทบด้านลบมาให้ทั้งสองเรื่องครับ

เป็นความจริงที่ว่า  นักแสดงส่วนใหญ่จะปรากฏตัวในละครหรือภาพยนตร์แค่หนึ่งเรื่องต่อปี  จงซอกกำลังทำงานห้าปีภายในปีเดียว
ปลายปีที่แล้ว  ผมพูดว่าเป้าหมายของผมคือในปีนี้ผมจะมีละครสองเรื่องและภาพยนตร์สองเรื่อง  ตอนนี้ผมบรรลุเป้าหมายแล้ว  แต่ปัญหาก็คือผลที่ออกมาจะดีหรือไม่

จองอุงอินกล่าวในงานเลี้ยงว่า “ไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่ดื่มคืนนี้คือคนตาย  คนที่กินได้แค่เนื้อก็คือคนตาย”
รุ่นพี่จองอุงอินพูดคำนี้บ่อยมากเลยครับตอนที่เราถ่ายทำซีนที่อยู่บนหลังคาด้วยกัน  แล้วเขาก็ยังบอกว่า “เราต้องดื่มด้วยกันที่งานเลี้ยงนะ”  แต่เพราะตารางการถ่ายทำ ‘No Breathing’ ทำให้ผมอยู่ร่วมงานเลี้ยงได้แค่ช่วงแรกแล้วก็ต้องออกมา  ผมไม่สามารถอยู่จนถึงเช้าได้และแม้แต่ในขณะที่ถ่ายทำละครอยู่ผมก็ไม่มีเวลามากพอที่จะออกไปเที่ยวกับพวกเขา

แม้จะดูเหมือนว่ามันค่อนข้างยากลำบากที่คุณต้องผ่านมันไปให้ได้แต่อย่างไรเสียคุณก็ได้รับผลตอบแทนที่สาสม  อีจงซอกในฐานะนักแสดงผู้ถูกแบ่งออกเป็นก่อนและหลัง IHYV
หลังจาก School 2013 จบลง  มีบทที่เกี่ยวกับนักเรียนส่งมามากมายเลยครับ   ผมอาจจะพูดเกินความจริงไปหน่อย  แต่เกือบจะทั้งหมดของบทบาทที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนในเกาหลีทั้งภาพยนตร์และละครก็ถูกส่งมาให้ผม  จากมุมมองของผม  ตั้งแต่ผมแสดงเป็นนักเรียนใน ‘High Kick 3’ และ ‘School 2013’  ผมรู้สึกว่าผมควรจะหลีกเลี่ยงบทนักเรียนทั้งหมดครับ
ตอนที่บท IHYV มาถึง แม้ว่าผมจะยังไม่ได้อ่านบทเลย  แต่ผมก็รู้ว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแฟนตาซี  เกี่ยวกับนักเรียนไฮสคูลที่มีพลังเหนือธรรมชาติ  ผมถูกดึงดูดด้วยเรื่องราวแบบนั้นทันที  ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผมกำลังสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับ IHYV ก็คือสถานีที่ออกอากาศในตอนแรก  มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมหนักใจมากที่ผมต้องเลือกที่จะเข้าร่วม ‘No Breathing’ แทนที่จะทำละคร
แต่หลังจากนั้นไม่นาน  IHYV ก็ย้ายจาก KBS ไป SBS ตอนนั้นเองที่ผมตกลงเข้าร่วมภาพยนตร์  แล้วผมควรจะทำยังไง  มันค่อนข้างน่าเสียดายครับที่จะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป  ผมก็เลยบอกพวกเขาว่า  ถ้ากองถ่ายสามารถจะจัดตารางให้ผมได้  ผมจะต้องพยายามและทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน  ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม  ถ้าดูที่ผลตอบรับแล้วละครประสบความสำเร็จมาก  ผมรู้สึกว่าผมโชคดีมากที่ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้

และนี่คือสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกว่าความโด่งดังได้มาเยือนคุณจริง ๆ แล้วใช่หรือไม่
หลังจากที่ IHYV จบลง  ผมเข้าไปดูผลตอบรับในอินเตอร์เน็ต  มีหัวข้อข่าวที่มีคนสนใจมากที่สุด 10 หัวข้อ  จาก 1-10  เกี่ยวกับ IHYV หมดเลย  ผมยังแคปเก็บไว้เลยนะ (หัวเราะ)




อีโบยังและคุณเข้ากันได้ดีในฐานะคู่รัก  แม้ว่าอายุจะห่างกันมาก  แต่ความสัมพันธ์ของพวกคุณก็ไม่ได้ดูเคอะเขินเลยแต่กลับให้ความรู้สึกโรแมนติกมากกว่า  แต่เธอเพิ่งจะประกาศว่าเธอจะแต่งงานกับจิซุง  โดยปกติแล้วตอนที่พี่สาวจริง ๆ ของคุณจะแต่งงานคุณก็มักจะไม่ชอบคนที่จะมาเป็นพี่เขยของคุณแล้วก็จะรู้สึกเสียใจ  คุณรู้สึกอย่างไรบ้างตอนที่ได้ทราบข่าวว่าเธอจะแต่งงาน
ผมรู้ว่าเธอจะแต่งงานครับ  เธอบอกผมว่าเธอจะแต่งงาน  และบอกให้ผมทำตัวให้ว่างเพื่อที่จะไปร่วมพิธีในวันที่ 27 กันยายน  และบอกว่าเธอจะประกาศการแต่งงานหลังละครจบ  สำหรับผมแล้ว  โบยังนูน่าเป็นเหมือนกับพี่สาวของผมจริง ๆ ทั้งผู้กำกับแล้วก็ครอบครัวของเราในกองถ่ายต่างก็เห็นด้วยที่ว่าเราสองคนเหมือนพี่น้องกันจริง ๆ มันเป็นความรู้สึกเหมือนว่าคุณได้มองพี่สาวจริง ๆ ของคุณแต่งงาน
ผมพูดจริง ๆ นะครับ  ประสบการณ์ที่ผมได้รับจากนูน่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้มีเรื่องรักที่สมบูรณ์แบบในละคร  ก่อนหน้านี้มักจะเป็นมิตรภาพระหว่างผู้ชายกับผู้ชายหรือไม่ก็เป็นความรักที่ไม่สมหวัง  เพราะเรามีอายุที่ห่างกันมากถึงสิบปี  ผมเลยกังวลมากว่าจะแสดงออกทางอารมณ์ยังไง  ต้องขอบคุณนูน่ามาก ๆ เลยครับที่นำผมได้เป็นอย่างดีจนผมสามารถทำมันได้จนจบ

ใน School 2013  มีครั้งหนึ่งที่คุณพูดว่าเพราะกลอนของดอกไม้ของนาเทจู  “ทำให้บทบาทที่คลุมเครือก่อนหน้านี้กระจ่างชัดในร่างกายของผม”  มีซีนไหนใน IHYV ที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นไหม
ต่างออกไปครับ  ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับละครเรื่องนี้  ผมได้ยินคนมากมายพูดประมาณว่า “การแสดงของเขาดีขึ้นมาก ๆ“  “การค้นพบของอีจงซอก”  แต่ด้วยความสัตย์จริง  จนกระทั่งถึงตอนที่ 18  ผมก็ยังถามตัวเองว่า “ผมทำดีหรือยัง”
ตอนที่แสดง School 2013  ผมรู้สึกเหมือนว่า “ผมคือโกนัมซุน”  ผมซึมซับตัวละครได้อย่างสมบูรณ์  แต่ใน IHYV ผมไม่มั่นใจว่าผมทำได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบ  แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น โกนัมซุน แห่ง School 2013 หรือพัคซูฮาแห่ง IHYV  ทั้งสองคนก็เป็นตัวละครที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ผมเป็นคนที่ได้รับโชคดีอย่างมหาศาล

เมื่อสองสามวันก่อนที่คุณเขียนในโซเซียลเน็ตเวิร์คว่า “ตอนนี้ผมอยู่ในกองถ่าย ‘No Breathing’  ผมคิดถึงทนายจางมาก ๆ เลย”
มันอาจจะดูไม่เหมาะสม  แต่ผมก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง  แต่ไม่ว่าคุณจะพยายามตัดมันออกไปอย่างไร  แต่ผมก็ใช้เวลาที่แสนยาวนานในกองถ่ายละครซึ่งมันเพิ่มความรู้สึกที่ว่าผมพบว่าตัวเองซึมซับความเป็นพัคซูฮาเข้าไปแล้ว  ตั้งแต่ที่ผมสวมรองเท้าของซูฮาอยู่เป็นประจำ  ผมก็จะรู้สึกถึงสิ่งที่ซูฮารู้สึกด้วย  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมเขียนอะไรแบบนั้น




มีข่าวลือว่าคุณผิดหวังมากที่นักแสดงหญิงที่คุณจะแสดงด้วยใน ‘No Breathing’ คือ SNSD ยูริ
ฮ่าฮาฮา ผมเข้ากันได้ดีกับยูริครับ  ความจริงคือเราอยู่ในกลุ่มนักแสดงที่มีอายุเท่ากันในภาพยนตร์  แบบนั้นแหละครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องทำงานแม้มันจะยากลำบาก  แต่ในทางตรงกันข้าม  ในละคร  ผมกลับรู้สึกเหมือนว่าผมได้รับการดูแลจากโบยังนูน่า  ซึ่งมันง่ายกว่าครับ  นี่คือครั้งแรกที่ผมได้เป็นนักแสดงนำอย่างแท้จริง  ผมจึงคิดว่าผมควรจะแสดงให้เห็นในด้านที่ผมไม่เคยแสดงมาก่อน

ใน ‘No Breathing’ คุณและซออินกุกไม่ได้แข่งขันกันเฉพาะการว่ายน้ำเท่านั้นแต่ยังเป็นคู่แข่งด้านความรักด้วย  เพราะว่าคุณตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันและต้องต่อสู้เพื่อให้เธอสนใจ  มีอะไรที่เหมือนในชีวิตจริงบ้าง
ผมตกใจมากเลยครับ  ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งพี่กุก  ยูริ แล้วก็ Dal Shabet อายอง  เอาความจริงนะครับ  คนส่วนใหญ่มักจะหวาดกลัวเล็กน้อยเวลาที่มีนักร้องมาอยู่ในสถานที่ถ่ายทำด้วย ใช่ไหมครับ  และที่มากกว่านั้นผมไม่ใช่นักแสดงเต็มตัว 100%  แล้วก็ยังมีข้อบกพร่องในทักษะการแสดงของผมอีกตั้งมากมาย  ผมก็เลยค่อนข้างกังวลครับ
แต่พี่กุกเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเหมือนในอุดมคติของทุกคน  การแสดงของเขาดีมากแล้วผมก็ตกใจมากนั่นเป็นสิ่งที่กระตุ้นผมมากขึ้นไปอีก  ผมไม่รู้ว่าการแสดงของพี่เขาจะเป็นธรรมชาติได้ขนาดนั้น  เขาจะเสนอความคิดของเขากับผู้กำกับ  เขามีสัญชาตญานแห่งการแสดงและตั้งใจทำมันอย่างดีที่สุด
ตอนที่กำลังถ่ายทำ  ผมจะมีช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่า “มันควรจะมีตัวอย่างให้ดูในซีนนี้”  แต่เมื่อผมพูดคุยกับผู้กำกับ  ผมเป็นคนประเภทที่จะโอนอ่อนตามคำสั่งของผู้กำกับได้ง่าย  บางครั้งผมก็คิดว่า “ภาพยนตร์คือศิลปะของผู้กำกับ”  แต่บางครั้งผมก็เข้าไปหาผู้กำกับแล้วก็ถามว่า “ตอนนี้ไม่ควรจะเป็นแบบนี้เหรอครับ”  แต่ในท้ายที่สุด  ผมก็ไม่มีความมั่นใจมากพอที่จะทำอย่างที่ผมคิด  แต่พี่กุกทำได้ดีมากเลยครับ

บทของคุณในภาพยนตร์สร้างมาจาก พัคแทฮวัน (หนึ่งในนักว่ายน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาหลี)  เป็นนักว่ายน้ำที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ในการแข่งขันระดับชาติ  ดังนั้นเราก็เลยคิดเอาเองว่าคุณสามารถว่ายน้ำได้
ผมว่ายน้ำไม่ได้เลยครับ ก่อนหน้านี้ผมทำไม่ได้แม้กระทั่งลอยตัวอยู่ในน้ำ  แต่พอตัดสินใจเข้าร่วมโปรเจคนี้  ผู้กำกับก็พูดให้ผมมั่นใจว่า “การว่ายน้ำเป็นกีฬาเพียงชนิดเดียวในโลกนี้คุณจะไม่สามารถร้องขอให้เราใช้สตันท์”   แต่เมื่อเราต้องถ่ายทำจริง ๆ มันแตกต่างไปโดยสิ้นเชิงแม้แต่กับคนที่เป็นสตันท์  ผมต้องถ่ายทำหลายซีนในน้ำและข้างสระว่ายน้ำ  แต่พี่กุกโตมาในเมืองที่อยู่ใกล้ทะเล  เขาก็เลยว่ายน้ำได้ดีมากเลยครับ

ว่ายน้ำและแสดงในเวลาเดียวกันต้องเป็นเรื่องที่ลำบากมากแน่ ๆ
ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ  ผมยังคงฝึกซ้อม  ผมว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ดีเลยครับ  แต่ว่ายท่าอื่นไม่ได้เลย  เหมือนใบไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำเลย  ผมต้องยกระดับตัวเอง  ตอนนั้นเองเราได้เข้าแคมป์ฝึกซ้อมว่ายน้ำที่ฟิลิปินส์ทำให้เราต้องว่ายน้ำเยอะมาก  ซึ่งมันทำให้ผมผอมลง  ถ้าผมทำได้ไม่ดีพอ  ต่อจากนั้นทุกซีนก็จะถูกยกเลิก  ผมก็เลยต้องทำให้ซีนนั้นจบลงอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  ถ้าผมไม่สามารถแสดงได้ดีในเทคสองเทคแรก  ต่อจากนั้นก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะทำได้ดีอีก ภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาเป็นอะไรที่ควรจะหลีกเลี่ยงจริง ๆ

คุณแสดงเป็นนักกีฬาปิงปองในเกาหลีด้วย  การว่ายน้ำยากกว่าเล่นปิงปองอย่างนั้นหรือ
ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำเหนื่อยกว่ามากเลยครับ  มันเป็นเพราะว่าคุณต้องถอดเสื้ออยู่ตลอดเวลาในภาพยนตร์  เป็นความอยากลำบากที่ทำให้คุณอยากตาย  เพราะผมกลัวว่าพุงจะโผล่ครับ  ผมไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ต้องการได้  ต้องทำทุกอย่างแม้ว่าจะกดดันมาก  มีครั้งหนึ่งที่ผมอ้วนขึ้น  แล้วไขมันก็รวมตัวกันอยู่ที่ท้องผมหมดเลย  ผมก็เลยกลัวว่าพุงจะโผล่  หมายความว่าตลอดการถ่ายทำผมต้องรักษาน้ำหนักไว้  ผมทานอะไรไม่ได้เลยนอกจากอกไก่  การไดเอททำให้ผมลำบากมากขึ้น  ตอนที่คุณชมภาพยนตร์  คุณอาจจะคิดว่าร่างกายของผมดูดี  แต่คุณจะเห็นได้ด้วยตาของคุณเองเลยว่าน้ำหนักของผมลดลงไปมากระหว่างที่ถ่ายทำ




ในเดือนกันยายน  ภาพยนตร์ที่คุณแสดงกับนักแสดงผู้มากประสบการณ์อย่าง ซองคังโฮ  อีฮเยซู  และอีจองแจ ‘The Face Reader’  จะเข้าฉาย  ในเรื่องคุณแสดงเป็นลูกชายของหมอดูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโชซอน  ที่แสดงโดยซองคังโฮ  แล้วคุณเคยไปดูดวงบ้างหรือปล่าว
ผมไม่เคยดูดวงครับ  แต่แม่ของผมเคยไปดูดวงให้ตอนที่ผมอายุ 20 ปี  หมอดูบอกว่าผมจะประสบความสำเร็จตอนอายุ 25  แต่ตอนนี้ผมก็อายุ 25 แล้ว  ตอนที่คิดถึงเรื่องนี้ก็แบบ ว้าวว  มันน่าตกใจนะ (หัวเราะ)  ตอนที่ถ่ายทำ ‘The Face Reader’  ผมก็คิดมาตลอดว่าเรื่องนี้จริงหรือปล่าว
 ‘The Face Reader’ จะเข้าฉายเดือนกันยายน ‘No Breathing’ เดือนตุลาคม  เราได้ทราบมาว่าคุณกำลังถ่ายทำ ‘Hot Blooded Youth’ ที่มีกำหนดเข้าฉายกุมภาพันธ์ปีหน้า  ตารางงานของคุณไม่มีช่องว่างให้พักเลย
เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจมากกว่าครับ  ในขณะที่ผมทำโปรเจคพวกนี้อยู่ทั้ง ‘No Breathing’ และ  ’Hot Blooded Youth’  ต่างก็เป็นบทบาทของนักเรียนไฮสคูล  ผมเริ่มที่จะกังวลเกี่ยวกับ “การหลุดพ้นจากภาพลักษณ์แบบนี้”  หรือผมอาจจะถูกผูกติดกับภาพลักษณ์แบบนี้ไปแล้ว  แต่ยังไงก็ตามบทบาทพวกนี้คือสิ่งที่ผมจะไม่สามารถแสดงได้อีกในอนาคตถ้าผมไม่ทำในตอนนี้ (หัวเราะ)

หลังจาก IHYV จบลง  แม้จะมีละครเรื่องใหม่ ๆ ออกมา  แต่ดูเหมือนว่าผู้ชมยังคงติดอกติดใจในเรื่องราวต่อจากนั้นของพัคซูฮาและทนายจาง
ผมก็เหมือนกันครับ  แม้ว่านักเขียนและคนหลายคนที่ไม่เห็นด้วยที่เราจะเพิ่มตอนใหม่อีกสองตอนและมีบางคนพูดว่านี่เป็นเรื่องแย่ของละคร  แต่ทั้งหมดที่เราได้รับคือการชื่นชมและความรักที่ยิ่งใหญ่จากผู้ชม  สำหรับผมแล้ว  นี่จะเป็นงานชิ้นหนึ่งที่ผมจะจดจำไว้ในใจตลอดไป






Thai Trans : @Bua2be
Pleas Take Out With Full Credit.


1 ความคิดเห็น:

  1. ความตั้งใจของคุณ ทำให้แฟนๆ ที่รอคอยดูการแสดงนั้นไม่ผิดหวังเลย เป็นกำลังใจให้นะ จงซอก ☺️

    ตอบลบ