วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

[บทความ] อีจงซอก คิมอูบิน Are you soul mate each other?


หลายคนคงจะเคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับคำว่า โซลเมท (Soul mate) กันมาบ้าง  ยังมีอีกหลายความเข้าใจที่เรา ๆ ท่าน ๆ ยังคงสงสัยและไม่เข้าใจ  ก่อนอื่นเราควรมาทำความรู้จักกับคำว่าโซลเมทกันก่อน

โซลเมท (Soul mate)  หรือ  เนื้อคู่  คู่แท้  อาจมีความหมายถึง  คู่รัก  เพื่อนรัก  คนในครอบครัว  หรือใครก็ได้ที่ได้มีปฏิสัมพันธ์ หรือความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน  อาจจะเป็นในแบบเพื่อนร่วมงาน  คนที่เดินผ่าน  หรือแม้แต่คนที่ได้พบได้เจอกันเพียงชั่วครั้งชั่วคราว  หรืออีกนัยหนึ่งหากลองไปเปิดพจนานุกรม  จะพบว่าคำ ๆ นี้ยังหมายถึง  คู่แท้  คู่รัก  บุคคลที่ร่วมวิญญาณกัน

จากการศึกษาพบว่าโซลเมทได้ถูกแบ่งเป็นหลากหลายประเภท  แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วต่างมีความเกี่ยวข้องต่อเนื่องซึ่งกันและกัน

ผู้เขียนจะอธิบายเกี่ยวกับความหมายของแต่ละประเภทพอสังเขป
Companion Soul mates. คือพื้นฐานทั่วไปแบบที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดของโซลเมท  มีความหมายถึง  คนทั่วไป  คนที่ผ่านมา  ที่มาช่วยเหลือเรา  หรือทำสิ่งดี ๆ ให้กับเราโดยใช้เวลาร่วมกันในระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราทำสิ่งดี ๆ ด้วยคำพูดหรือการกระทำของเขา
Karmic Soul mates. เรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือคู่เวรคู่กรรมนั่นเอง  โซลเมทในรูปแบบนี้คิดว่าคงได้พบเจอกันมาบ้าง  โซลเมทแบบนี้คือคนที่นำทุกข์นำโศกมาให้  อาจจะเป็นสามี  ภรรยา  เพื่อนร่วมงาน  ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วนำพาให้เราเสียใจ  โซลเมทประเภทนี้จะทำให้เราได้รับรู้ถึงความมีคุณค่าของโซลเมทในแบบอื่น ๆ
Twin Soul mates. โซลเมทในรูปแบบนี้เป็นโซลเมทที่กำกึ่งในความสัมพันธ์  อาจจะเป็นเพื่อนแท้  เพื่อนตายหรือคู่ชีวิตก็อาจเป็นได้  โซลเมทประเภทนี้คือคนที่นำสิ่งดีมาสู่ชีวิต  อาจร่วมทุกข์ร่วมสุขและแบ่งปันกันในทุก ๆ เวลา  คนที่มองตาก็รู้ใจซึ่งความหมายดูใกล้เคียงกับโซลเมทอีกประเภทที่กำลังจะกล่าวถึง  ในหนึ่งคนอาจจะมีหลายคนที่เป็นโซลเมทในแบบนี้ก็ได้
Twin Flame Soul mates. คือโซลเมทแบบที่เราทุกคนน่าจะคิดถึง  นั่นคือคนที่เป็นเหมือนอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่หายไป  เมื่อได้พบจะรู้สึกราวกับว่าชีวิตถูกเติมเต็ม  และนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนในที่สุด  ว่ากันว่าโซลเมทประเภทนี้จะมีเพียงแค่คนเดียวในชีวิตของคนหนึ่งคน

ทั้งหมดทั้งมวลที่ร่ายยาวมาราวกับวิทยานิพนธ์สอบปริญญาเอกนี้  ทั้งหมดก็เพียงเพื่อจะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคู่เพื่อนซี้คนดัง  ที่ทำให้ผู้เขียนสนใจในคำ ๆ นี้ขึ้นมา

อีจงซอก  คิมอูบิน  คู่จิ้นแห่งปี 2013  ที่ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าในนาทีนี้ไม่มีคู่จิ้นวาย (จะหาโอกาสเขียนเรื่องนี้ในโอกาสถัดไป)  คู่ไหนจะร้อนแรงและเป็นที่สนใจของสาวกเกาหลีมากไปกว่าคู่นี้อีกแล้ว

ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างคู่เพื่อนรักคู่นี้ว่า  ทั้งสองคนมารู้จักและสนิทสนมกันจากการร่วมงานกันในละครที่โด่งดังที่สุดแห่งปีเรื่องหนึ่งอย่าง School 2013 แต่ความเป็นจริงแล้วความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของคู่นี้ได้เริ่มต้นตั้งแต่ทั้งคู่ยังเป็นนายแบบร่วมรันเวย์ในวัยทีนเอจ  จากบทสัมภาษณ์บางตอนที่อูบินพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่พัฒนาผ่านวันเวลา  จนกลายมาเป็นเพื่อนซี้ย่ำปึ๊กกันในที่สุดที่ว่า

ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันมาก่อนแต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าเราจะรู้จักนิสัยส่วนตัวของกันและกัน  เพราะเราไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันแบบจริงจัง  แต่ระหว่างที่เราถ่ายละครทำให้ผมรู้จักจงซอกมากขึ้นแล้วก็พบว่าเรามีอะไรที่เหมือนกันเยอะมาก  แม้ว่าบุคลิกของเราจะต่างกัน  แต่ของที่ชอบ ความคิด หรือแม้แต่อะไรที่เป็นปัญหาสำหรับเรากลับเหมือนกันมากจริง ๆ ครับ  เพราะเราเกิดปีเดียวกัน  เราก็เลยรู้สึกอะไร ๆ เหมือนกันไปหมดเลย ฮาฮ่า ~ จงซอกและผมสนิทกันเพราะโรงเรียนใช่มั๊ย โรงเรียนของเราสุดยอดเลย ~!

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับโซลเมท???
ก็นั่นสินะ  เกี่ยวยังไง

ความจริงก็คือผู้เขียนพยายามจะเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ว่าจริง ๆ แล้วสองคนนี้เป็นโซลเมทประเภทไหนของกันและกัน

สิ่งที่ดูจะใช้นิยามความเป็นคู่จงบินไม่ได้เลยก็คือคำว่า Companion Soul mates  ส่วน  Karmic Soul mates  แม้ทั้งคู่จะเคยพูดว่า  รู้สึกเหมือนถูกแยกจากคนรักตอนที่ School 2013 จบ  แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น  เป็นอันว่าตัดสองคำนี้ไปได้เลย
เหลือ Twin Soul mates กับ Twin Flame Soul mates  ที่อาจจะอธิบายความสัมพันธ์ของทั้งสองคนได้  แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นโซลเมทประเภทไหนกันแน่
ลองมาดู Twin Soul mates กับความเป็นจงบินกันก่อน  ในกรณีนี้น่าจะเทียบเคียงได้ถึงความสัมพันธ์ที่ทั้งสองคนมีต่อกันในปัจจุบัน  คำพูด  หรือการแสดงออกที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกต่อกันทั้งต่อหน้าและลับหลังดูจะเชื่อมโยงกับคำนี้ได้ดี 
มีบางช่วงบางตอนจากงานแฟนมีตติ้งที่พูดถึงงานละครที่ผ่านมา  และหนึ่งในนั้นก็คือ School 2013  มีแฟนแอคที่แอบบอกเล่าถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างจงซอกกับอูบินได้น่ารัก  น่าหยิก  อย่างเช่น  เมื่อมีคลิปวีดีโอที่มีอูบินปรากฏอยู่บนจอ  จงซอกก็จะหัวเราะออกมาในทันที
หรือ  แม้แต่ในงานแฟนไซน์ที่อูบินถูกแฟนคลับถามว่าเขาชอบจงซอกหรือไม่  เขาก็ตอบว่าชอบทันที  หลากหลายเหตุการณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน  จนถึงขั้นมองตาก็รู้ใจอย่างที่อูบินเคยพูดถึง

ใน School 2013 มีซีนที่ฮึงซูกับนัมซุนคืนดีกันตอนที่กินราเมน  เราได้บทก่อนถ่ายทำประมาณ 30 นาที  มีบทสนทนาเยอะมากที่เราจะต้องจำให้หมด ผมไม่ได้ซ้อมกับจงซอกเลย  แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยเทคเดียว  เป็นครั้งแรกเลยครับที่ทำได้อย่างนั้น  นั่นเป็นครั้งแรกที่พบค้นพบว่าเราเข้ากันได้ดีเพียงแค่มองตากันและกัน

มาถึง Twin Flame Soul mates  ที่ก็ดูจะเหมาะกับความเป็นจงบินอยู่ไม่น้อย  แต่ต่างกันก็เพียงโซลเมทประเภทนี้นั้นดูจะเจาะจงกับคำว่าคู่ชีวิต  ที่เราคุ้นเคยกันในฐานะสามี-ภรรยาเสียมากกว่า  แต่หากจะมองดูให้ลึกแล้วจะพบว่าเราอาจจะยึดติดกับความเชื่อเก่า ๆ มากเกินไปจึงมองโซลเมทประเภทนี้ในมุมค่อนข้างแคบ  ในความหมายของโซลเมทประเภทนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่คู่ชีวิตที่มีความสัมพันธ์ทางเพศหรือข้อบ่งชี้อื่นใด  นอกจากคนสองคนที่เกิดมาเพื่อกันและกัน  มาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายของกันและกัน  ซึ่งหากนึกถึงคำพูดที่จงซอกเคยพูดถึงอูบินก่อนหน้านี้ก็ดูจะเข้ากันได้ดีกับโซลเมทประเภทนี้

"แม้จะมีบางครั้งที่ผมไม่พร้อมที่จะถ่ายทำ แต่ตราบเท่าที่ผมมีคิมอูบินอยู่เคียงข้าง ผมก็จะมีความมั่นใจว่าผมจะทำได้ทุกอย่าง อูบินคือคู่หูที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผม"

หากมองถึงความแตกต่างของโซลเมทสองประเภทนี้แล้ว Twin Soul mates  และ Twin Flame Soul mates  ดูจะแตกต่างกันเพียงแค่ในหนึ่งชีวิตของเราอาจมี  Twin Soul mates  ได้หลายคน  แต่เราจะมี Twin Flame Soul mates  ได้เพียงคนเดียวในหนึ่งชีวิต  และด้วยความแตกต่างข้อนี้ทำให้ไม่อาจจำแนกได้ว่าทั้งสองคนเป็นโซลเมทประเภทไหนของกันและกัน  แต่นอกเหนือจากความสงสัยในคำจำกัดความสัมพันธ์ที่ทั้งสองคนมีต่อกันแล้ว  ยังมีสิ่งที่งดงามยิ่งกว่า  นั่นคือมิตรภาพที่ทั้งสองคนมีต่อกัน  ซึ่งไม่จำเป็นต้องสรรหาคำใดมานิยาม  เพียงแค่ได้เห็น  ได้มองสิ่งดี ๆ ที่ทั้งสองคนได้หยิบยื่นให้แก่กัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนที่รักจงบินมีความสุข

แล้วคุณล่ะ  คิดว่าจงบินเป็นโซลเมทประเภทไหน






บทความนี้เขียนขึ้นมาจากการศึกษาค้นคว้าตามแหล่งอ้างอิงดังต่อไปนี้
โปรดนำออกไปพร้อมเครดิตเต็ม
http://89linewoobin.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น