~*~*~*~*~*~
เพื่อนคนพิเศษของเขา
“ลายมือของผมแย่มาก ๆ ให้คนอื่นเห็นจะดีเหรอครับ”
นี่คือทั้งหมดที่เราได้จากลายมือที่เขาเขียนรายชื่อคนพิเศษในแวดวงบันเทิงมาให้เรา
เพื่อนที่ได้เจอบ่อยสุดที่สุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
พัคเฮจิน
คังโซรา จินเซยอน เราทำงานหนักด้วยกัน
เพื่อนที่สามารถบอกเล่าปัญหาให้ฟังได้
คิมโบมี
เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันใช่ไหม (นักแสดงสาวที่แสดงเป็นน้องสาวของ
คิมชิกยูใน DS)
คนที่ในชีวิตจริงคุณสนิทมากกว่าที่เราได้เห็นกันในโลกโซเชียล
กวังฮี
เราคุยกันถึงเรื่องที่ว่าเราเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหนแล้ว
เพื่อนต่างเพศที่ออกไปข้างนอกด้วยกันได้อย่างสนิทใจเหมือนเป็นเพศเดียวกัน
คังโซรา
เราจะไปทานอาหารค่ำด้วยกันคืนนี้
คนที่ดูต่างจากภาพลักษณ์ที่เห็นมาก ๆ
คริสตัล
เธอดูเท่ห์และเข้าถึงยาก
แต่ความจริงแล้วเธอเป็นเด็กที่น่ารักคนหนึ่ง (จงซอกเรียกคริสตัลว่า เอกิ)
คนที่คุณอยากจะขอบคุณ
และเรื่องอะไรที่อยากขอบคุณ
รุ่นพี่คิมซังจุน
ผมรู้สึกเหมือนเขาเกือบจะเป็นพ่อจริง ๆ ของผม เขาอบอุ่นมาก ๆ เลย
(นักแสดงที่รับบทพ่อของพัคฮุน)
~*~*~*~*~*~
จากเพื่อน ๆ ถึงจงซอก
คิมอูบิน : บุคลิกของเขาดีมาก ๆ แล้วก็น่ารักมาก ๆ ด้วย เขามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นอย่างมาก
เป็นคนที่ผมรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอที่ได้มีเขาเป็นเพื่อน เราต่างก็ยุ่งแล้วก็ไม่ได้เจอกันเลย
คงเป็นเรื่องที่ดีมากที่ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนที่จะเจอกันได้บ่อย ๆ
แล้วได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกจริง ๆ ของเรา
ยุนซางฮยอน : มันเป็นโชคชะตาที่มหัศจรรย์มากจริง ๆ ที่หลังจาก Secret
Garden เราก็ได้ร่วมงานกันครั้งที่สองใน
I Hear Your Voice ในช่วงเวลาที่จำเป็นเราต่างก็มอบความเข้มแข็งให้กันและกัน การที่ได้เห็นจงซอกเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่ผมซาบซึ้งและภาคภูมิใจในตัวเขามาก
สักหนึ่งเดือนได้แล้วที่ Doctor Stranger จบ แล้วตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่
ผมใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปบนเตียงนอน ทั้งสัปดาห์ผมทำแค่นอนดูทีวีบนเตียง สั่งอาหารมาส่งที่บ้าน แล้วก็นอนหลับไปทั้งแบบนั้น เกือบจะพูดได้เลยว่า “ต้องคนขี้เกียจที่ตกงานถึงจะทำแบบนี้ได้” นอกจากนั้นมีบางครั้งบางคราวที่ผมมีตารางงาน ผมแทบจะไม่ได้อาบน้ำหรือโกนหนวดเลย มีหนวดเคราแบบนี้ก็ดูดีกว่าที่ผมคิดนะ (หัวเราะ)
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมออกจากบ้านหลังจากที่ไม่ได้ไปไหนซะนานเลย สดชื่นจริง ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับบทนำเพียงคนเดียวในละคร รู้สึกอย่างไรบ้างที่ต้องมองเห็นพัคฮุนโบกมือลา
มันเหมือนเวลาที่นิ้วเจ็บครับ
ผมไม่เคยเตรียมตัวกับละครเรื่องไหนมากเท่าเรื่องนี้เลย แล้วก็ไม่เคยอยากจะทำให้ดีถึงขนาดนี้เลย เริ่มจากปลายเดือนตุลาคมที่ผมหอบเอาบทไปไหนมาไหนกับผมตลอดเวลา ผมอยากให้เห็นพัคฮุนหลาย ๆ ด้าน
แต่ก็ดูเหมือนผมจะไม่เก่งพอที่จะแสดงให้เห็นเสน่ห์ของเขามากเท่าที่ผมอยากให้เป็น มันน่าอายจริง ๆ
ฉันได้ยินมาว่าคุณเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อรับบทนี้
ผมทำงานหนักมากเพื่อรับบทนี้ ผมอยากจะสร้างตัวละครที่สมบูรณ์แบบ ผมค่อย ๆ หลงใหลบทนี้ทีละเล็กน้อย แล้วก็ออกกำลังกายอย่างมากเพื่อให้ร่างกายของผมดูดีพอที่จะแสดงบทนี้ ในทุก ๆ
ตอนผมจะยุ่งอยู่กับการใส่รายละเอียดเล็กน้อย ๆ ของตัวละครลงไปในการแสดงของผม ผมกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก ๆ
เพราะบทบาทนี้เป็นศัลยแพทย์ทรวงอกผมต้องไปสังเกตการณ์ผ่าตัดหัวใจ ตื่นเต้นมาก ๆ เลยครับ แล้วผมก็ได้ลองจับหัวใจจริง ๆ
ที่ยังเต้นอยู่ด้วย
ได้สัมผัสหัวใจที่ยังเต้นอยู่ รู้สึกยังไงบ้าง
จังหวะการเต้นหนักแน่นกว่าที่ผมคิดไว้ครับ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ตอนที่ผมเห็นคนไข้นอนหลับเพราะฤทธิ์ยาสลบ แม้ผมจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่กลับรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก “ทำไมหัวใจของเราถึงได้เต้นอย่างหนักหน่วงเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่” ทำให้ผมต้องคิด
เพราะ Doctor Stranger ทำให้คุณได้รับคำชมเรื่องการแสดงเป็นอย่างมาก พูดได้เลยว่าดีขึ้นมากจนผู้คนได้มองเห็นคุณในมุมใหม่
ไม่อยากจะเม้าท์เลยนะครับ ตอนที่ละครออกอากาศไปได้ครึ่งเรื่อง ผมก็ได้ข้อความจากซงคังโอ
เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมได้รับข้อความจากเขา ข้อความก็ประมาณว่า “การแสดงของคุณดีมาก ๆ
คงความรู้สึกนี่ไว้นะ”
รู้สึกเหมือนหัวใจของผมจะระเบิดออกมาเลยล่ะครับ ช่วงเวลาที่ผมอ่อนแอ ข้อความนั้นทำให้ผมซาบซึ้งและชาร์ตพลังให้ผมรู้สึกเต็มร้อย
แล้วผมก็มีความสุขที่ได้รับคำชมจากผู้ชมด้วย ตอนที่ผมแสดงกับรุ่นพี่ ผมก็เริ่มเข้าใจว่าการที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับคนที่แสดงด้วยนั้นสำคัญอย่างไร
(ซงคังโฮ
คือนักแสดงที่รับบทเป็นพ่อของจงซอกในเรื่อง The Face Reader)
ลองไล่รายชื่อรุ่นพี่ที่คุณเข้ากับเขาได้ดีให้ฟังหน่อยสิ
น่าจะเป็นรุ่นพี่คิมซังจุง
เขารับบทเป็นพ่อของผมที่ได้เห็นในละครแค่สองตอนแรก แต่เขาแสดงออกมาได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นเมื่อมีตอนที่ฮุนคิดถึงพ่อ ผมก็แค่ต้องคิดถึงหน้าของรุ่นพี่ เพียงเท่านั้นความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว
เหงาหงอยก็จะล่องลอยอยู่รอบตัวผม
แต่อีกทางหนึ่งการได้ร่วมงานกับรุ่นพี่ชเวจองอู (หมอมุน) ก็สนุกมาก ๆ ร่วมงานกับนักแสดงที่มีอายุไล่เลี่ยกันก็เป็นเรื่องดีมาก ผู้กำกับกับทีมงานทำงานหนักมาก ผมอยากกล่าวขอบคุณพวกเขาจากส่วนลึกของหัวใจจริง
ๆ
มาพูดเรื่องตอนที่คุณเดบิวต์ใหม่ ๆ กันดีกว่า อย่าง Secret Garden ผลงานที่ทำให้คุณเป็นที่รู้จัก
ตอนนั้นบทที่ได้รับเป็นบทเล็ก ๆ ครับ ต้องไปอยู่ที่กองถ่ายแค่ประเดี๋ยวประด่าว
สำหรับเรื่องนี้ผมคิดว่าผมได้ดูละครในฐานะผู้ชมครับ หลังจากนั้นตอนที่ผมอยู่ที่การุโซงอิลแล้วก็ออกไปทานอาหารข้างนอก ก็มีคนหลายคนเลยครับที่จำผมได้ ก่อนที่จะแสดง Secret Garden ผมยังไม่มีลายเซ็นเลย แต่พอมีคนเข้ามาหาผมตอนที่กำลังทานอาหารแล้วก็ขอลายเซ็น ผมก็เซ็นตรงนั้นเลยครับ ผมยังจำตอนนั้นได้เลย ผมอายแล้วก็เขินมากตอนที่เซ็น ตอนนี้ก็ไม่ค่อยอายแล้วล่ะครับ นี่เหมือนผมจะลืมตัวไปแล้วนะ (หัวเราะ)
หลังจาก High Kick 3, Korea: As one, School 2013, IHYV การแสดงของคุณก็ดูเหมือนจะพัฒนาไปเรื่อย
ๆ ในทุกงานที่คุณทำ
ในทุกงานที่ผมทำ
ผมจะสั่งสมประสบการณ์แล้วเอามันมาใส่ไว้ในการแสดงของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่แสดง Hot Young Bloods ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างแตกหักอยู่ในตัวผม ประมาณว่า “อ่า...
งั้นฉันก็สามารถขยายข้อจำกัดนี้ได้สิ”
จนกระทั่งตอนนี้
ผมคิดว่าผมยังไม่เก่งพอที่จะมองเห็นภาพรวมของงานทั้งหมด
แต่ผมก็สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับบทบาทที่ผมได้รับได้
จนถึงตอนนี้หากพูดถึงความโด่งดั่ง บรรยากาศโดยรวม IHYV ก็ยังคงยอดเยี่ยมใช่ไหม
ตอนที่ผมกำลังถ่าย Doctor Stranger ผมคิดถึง IHYV มากจนมันเกือบจะกลายเป็นเรื่องประหลาดเลยล่ะ อาจจะเป็นเพราะตอนที่ถ่าย IHYV เมื่อปีที่แล้วก็เป็นช่วงเวลาเดียวกัน
บรรยากาศในกองถ่ายก็อบอุ่นแล้วทีมงานก็ยอดเยี่ยมมาก ผมคิดถึงพี่โบยอง พี่ซางฮยอน
ผมคิดว่าถ้าผมกลับไปยังสถานที่ถ่ายทำ IHYV ในช่วงเวลานี้ทุก
ๆ ปี ผมก็คงจะคิดถึงอีก
ดูเหมือนว่าความสำเร็จที่คุณได้รับจากภาพยนตร์จะต่างจากที่ได้รับจากละครทีวีอยู่นิดหน่อย
มันคงจะดีครับถ้าผมแสดงภาพยนตร์ออกมาได้ดีด้วย ผมมักจะเอนเอียงไปหาบทละครมากกว่าบทภาพยนตร์ที่ท้าทาย
สำหรับภาพยนตร์ แนวของการแสดงจะค่อนข้างกว้างใช่ไหม?
เป้าหมายของผมคือการเป็นที่จดจำในฐานะนักแสดงจอเงิน
งั้นผมก็เลยจะต้องทำสิ่งที่ท้าทายตัวเองต่อไปในอนาคต
เป็นที่รู้กันดีว่าคุณถูกเรียกว่า “ทูตแห่งเคมี” เป็นคนที่เคมีเข้ากับทุกคน ไม่เฉพาะกับนักแสดงหญิงเท่านั้น นักแสดงชายก็ด้วย
เหมือนว่าทุกครั้งที่อีจงซอกมองไปยังใครสักคน ก็เต็มไปด้วยความรักอยู่เสมอ
ผมทำให้หัวใจของผมแสดงความรู้สึกออกทางแววตาอะไรแบบนั้นเหรอครับ ผมเป็นคนที่รักในสิ่งที่ผมฝันถึง... ความสวยงามของละครไม่ใช่เรื่องโรแมนติกทั้งหมดเหรอครับ ถ้าหากว่าผมจะไปทานอาหารกลางวันกับแฟนจริง ๆ
ของผม แม้จะเหนื่อยมากแต่ผมก็จะตื่นแต่เช้า เพื่อที่จะอาบน้ำ โกนหนวด พอเจอกันเราก็จะคุยกันว่าจะไปทานอะไรกันดี
มันเยอะแยะไปหมดเลยครับ
แต่ในละครตัดพวกเรื่องวุ่นวายออกไปหมดเลย
แล้วออกอากาศให้เห็นแค่เดทมื้อกลางวันที่โรแมนติก
ผมก็จะจดจำภาพที่สวยงามพวกนี้ไปใช้เวลาที่ผมแสดง
เคยมีครั้งหนึ่งที่คุณบอกว่าอยากจะข้ามขั้นตอนการเดทแล้วก็แต่งงานเลย
เวลาที่ผมดูรายการที่เกี่ยวกับการเติบโตของเด็ก ๆ
ผมก็อยากจะมีลูกขึ้นมาทันทีเลย
ผมเป็นแบบนั้นแหละครับ
ผมเป็นคนที่อยู่ในจินตนาการของตัวเอง
อย่างที่ผมอยู่บ้านแบบตอนนี้
ผมก็จะค้นหาทุกสิ่งทุกอย่างจากหนัง ละคร รายการ ดูหมดเลย
แล้วผมก็จะมาคิดได้ว่า ผมนี่เป็นโอตาคุตัวจริงเลยนะเนี่ย (หัวเราะ) คนทั่วไปอาจจะรู้สึกเหงา แต่ผมจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับจินตนาการของตัวเองครับ
คุณใช้ชีวิตลำพังมาจนถึงตอนนี้ แล้วได้เจอกับพ่อแม่บ่อยไหม
ผมเริ่มอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เรียนไฮสคูล แม่มาที่โซลบ้างเป็นครั้งคราว เราได้เจอกันค่อนข้างบ่อย แต่ไม่ค่อยได้เจอพ่อครับ พ่อแม่ของผมมีเงินบำนาญครับ แต่ทำงานเพราะท่านอยากจะทำ แต่ช่วงนี้แฟน ๆ โทรไปเบอร์โทรที่ทำงานของพ่อบ่อยมาก
ๆ ผมก็เลยคิดว่าผมจำเป็นต้องหาขอบเขตที่เหมาะสมแล้วล่ะครับ
คุณทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณเป็นน้องเล็ก แต่เราอยากจะรู้จักคุณมากขึ้น
เราได้รู้มาว่าที่จริงแล้วคุณเป็นลูกชายคนโตที่มีทั้งน้องชายและน้องสาว
ผมมีน้องชายต่อจากผม
และน้องสาวเป็นลูกคนที่สาม
ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย
แล้วผมก็ไม่ได้ดูแลพวกเขาเลยครับ
ทั้งสองคนดูเหมือนกันแต่พวกเขาดูไม่เหมือนผมเลยครับ
น้องสาวของผมไม่เคยบอกเพื่อนเลยครับว่าเธอมีผมเป็นพี่ชาย ผมรู้สึกเคอะเขินกับน้องของผมนิดหน่อย ตอนที่ผมยังเด็ก มีช่วงเวลาที่ผมจูงมือเธอเดินไปตามถนน แต่ตอนนี้เธอโตขึ้นเราจึงไม่ได้สนิทกัน ถ้าในอนาคตเธอพาแฟนมาที่บ้าน ก็อาจจะรู้สึกแปลก ๆ ก็ได้ครับ
ตอนที่อยู่ในโรงเรียนคุณเป็นแบบไหน ระหว่าง
โกนัมซุนที่ทำตัวแปลกแยก
หรือพัคซูฮาหนุ่มใสสะอาด
ผมดูเหมือนโกนัมซุนมากกว่าครับ หลับในห้องเรียนแล้วก็ไม่ชอบไปโรงเรียน
ผมเป็นนายแบบตอนที่อยู่ไฮสคูลก็เลยไม่ได้ไปโรงเรียนเลยครับ แล้วผมก็มาคิดถึงคำของพ่อ “มีเพื่อนตอนเรียนไฮสคูลก็เหมือนมีชีวิต” ผมไม่มีเพื่อนเลยครับ
คุณออกจะโด่งดังในโลกโซเชียล ไม่มีเพื่อนเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อเลยนะ
เมื่อสองสามวันก่อน
ผมก็เริ่มเหนื่อยหน่ายที่จะอยู่แต่ในบ้านตลอดทั้งวัน
ผมก็เลยออกจากบ้านโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีคนที่ผมจะไปดื่มกาแฟด้วยได้หรือเปล่า พอเปิดดูรายชื่อในในโทรศัพท์ก็ไม่มีใครที่ผมจะชวนให้ไปด้วยกันได้เลย แล้วผมก็นึกถึงตัวแทนที่บริษัทของผม ก็เลยออกไปเจอกันคุยกันสัก 40 นาทีแล้วก็กลับบ้าน พอผมโทรไปเล่าให้โซราฟัง เธอบอกว่าผมน่าสงสารแล้วก็บอกให้ผมชวนเธอได้ถ้าผมเบื่อ
ๆ เราก็เลยได้ไปทานมื้อค่ำด้วยกันในคืนต่อมา ผมใช้ชีวิตแบบนี้แหละครับ (หัวเราะ)
นอกจากการแสดงแล้วมีอย่างอื่นในชีวิตนี้ที่คุณอยากทำไหม
ผมคิดเรื่องนี้มาก ๆ เลยครับ อะไรอีกที่ผมอยากทำ แต่ก็คิดไม่ออก เริ่มจากตอนนี้ผมควรจะได้พักเป็นครั้งคราว แต่พอพักก็ไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรดี มันทำให้ผมวุ่นวายนิดหน่อย
ตอนนี้คุณดูเศร้าหน่อย ๆ นะ
ช่วงนี้ความรู้สึกของผมค่อนข้างไม่มั่นคงครับ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของ Doctor Stranger นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าการแสดงของผมดูแปลก
ๆ แล้วก็น่ากลัว แม้แต่กับทีมงานที่ผมเจอทุกวัน
ผมก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจที่จะแสดงต่อหน้าพวกเขา ดูเหมือนผมจะมีอาการทางจิต แต่เมื่อสองสามวันก่อนที่ผมได้คุยกับโซราทางโทรศัพท์ เธอพูดบางอย่างกับผม
เธอพูดอะไร?
เธอบอกว่าชีวิตของผมในฐานะนักแสดงเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการที่ผมได้มีความสุขในฐานะคน ๆ หนึ่ง ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แรกเริ่มเลยผมเพียงแค่แสดงเพราะผมรักมัน แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่าง มันก็กลายเป็นงานที่เคร่งเครียด
มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมจำเป็นต้องพักแบบที่ผมทำอยู่ในตอนนี้
เวลาที่มีแต่ข่าวแย่ ๆ เต็มไปหมด คุณทำยังไง
ผมแค่นั่งอยู่ที่บ้าน
รู้สึกหดหู่
แล้วผมจะทำอะไรได้
ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่ใช่คนที่จะพาตัวเองเข้าสู่ปัญหา และก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดแม้มันจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตาม ผมได้สัญญากับแฟน ๆ ไว้ว่า ในอนาคตข้างหน้าผมหวังให้พวกเขายังคงเชื่อมั่นในตัวผมต่อไป
คุณอยากให้สาธารณชนมองคุณยังไง
จุดมุ่งหมายสูงสุดของผมคือการได้อยู่ต่อหน้าผู้ชมในฐานะนักแสดง ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร การทำงานอย่างหนักเป็นหนทางที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น แต่เมื่อปีที่แล้ว
จำนวนงานที่หลากหลายทำให้ผมคิดว่าถ้าผมก้าวผ่านข้อจำกัดของตัวเองไปล่ะ แต่ในอีกด้านหนึ่งผมก็ยังอยากจะรับงานที่หลากหลาย ซึ่งมันก็ยังเป็นอะไรที่ผมไม่รู้เหมือนกันครับ
ลองบอกถึงอนาคตของคุณให้เราฟังได้ไหม
ผมเชื่อว่าการแสดงของผมจะดีขึ้นเมื่อผมทำงานชิ้นใหม่ในเวลาอันใกล้นี้
สิ่งที่ผมคิดในตอนนี้ไม่ใช่การใช้ชีวิตในฐานะผู้ให้ความบันเทิง แต่จะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุขในฐานะอีจงซอกคนธรรมดาคนหนึ่ง แม้จะช้าไปหน่อย แต่ผมก็มีงานอดิเรกทำหนึ่งหรือสองอย่างแล้ว
น้ำหอมที่ใช้ทุกวัน : Burberry ‘The Beat’ Woman
แม้จะเป็นน้ำหอมสำหรับหญิงสาว
แต่ผมก็เริ่มใช้มาตั้งแต่ตอนอายุเพิ่งจะยี่สิบ มีความทรงจำมากมายกับกลิ่นของมัน
Fashion item: เสื้อเชิ้ต Alexander McQueen แขนของมันยาวดีแล้วก็ตัดเย็บได้ดีมาก ผมเลยชอบใส่
ภาพยนตร์ที่ทำให้อยากเป็นนักแสดง : ผมอยากเป็นนักแสดงเพราะดู ‘Temptation of Wolves’ ที่รุ่นพี่คังดงวอนแสดง
Interior Design: โคมไฟตั้งพื้นสีเหลืองในห้องนั่งเล่นที่ให้ความอบอุ่น
รถที่อยากได้ : ถ้าเทียบกับคนที่อายุเท่า ๆ
กันแล้ว ผมไม่รู้เรื่องรถเลย แต่ถ้าต้องเลือก ผมก็อยากเลือกรถของแบทแมน มันเท่ห์มากเลยครับตอนที่มันเปลี่ยนเป็นมอเตอร์ไซต์
ภาพยนตร์ที่คุณอินมาก ๆ ล่าสุด : ผมรอดู ‘Amazing Spiderman 2’ มานานมาก แต่ผมก็ไม่มีเวลาไปดูในโรง หลังจากที่ IPTV มีขายผมก็ซื้อมันทางเน็ตแล้วก็อูไปสองครั้ง
อาหารที่ทำให้มีความสุข : สตูซี่โครงใส่กิมจิที่แม่ทำครับ ผมรักมันมาก
ผมทานได้ทุกมื้อติดกันสองวันแบบไม่เป็นอะไรเลย
~*~*~*~*~*~
Editor’s Note (DC)
ในวันก่อนที่เขาจะไปนิวยอร์ค อีจงซอกไปที่ร้านกาแฟในช่วงหัวค่ำ รอยยิ้มสวยงามราวกับดอกไม้บนใบหน้าที่ไม่เหมือนใคร “อยู่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย การที่ต้องนอนบนเตียงเป็นอาทิตย์นี่มันมากเกินไปจริง
ๆ เหมือนหลังผมจะหักเลย”
เขาบอกกับเราแบบนั้น แล้วเราก็หัวเราะคิก ๆ เหมือนกับที่ได้เห็นในโฆษณาเลย
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีม่วงของ Vivienne Westwood กางเกงสีน้ำเงินเข้ม ดูเหมือนไหล่ของเขากว้างขึ้น เขาสั่งลาเต้เย็นแก้วโปรด แล้วก็ขอโทษที่มาช้าไป 10 นาที
ดูเหมือนว่านานมาแล้วที่เขาออกจากบ้านครั้งสุดท้าย เขาคิดว่าเขาต้องสร้างความประทับใจสำหรับคนที่จะร่วมงานด้วย เขาก็เลยไปซาลอนก่อนที่จะมาหาเรา (สำหรับคนแบบเขา พวกเรารู้สึกพิเศษเป็นอย่างมากที่เขาให้เกียรติเรา)
การที่ได้นอนเหยียดอยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องทำอะไรเลยตลอดทั้งสัปดาห์เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากสำหรับอีจงซอก คนที่ทำงานแบบไม่หยุดเลยตลอด 4 ปี
ตั้งแต่เขาเดบิวต์ใน ‘Princess Prosecutor’ และโด่งดังจาก Secret Garden ในปี 2010 อาชีพนักแสดงของเขาก็ได้เริ่มขึ้น เขาแสดง High Kick ในปี 2011
‘Korea: As One’ และ ‘R2B: Return to Base’ ในปี 2012 และปีที่แล้วกับผลงานถึงสี่ชิ้น ‘School 2013’, ‘I Hear Your Voice’,
ภาพยนตร์ ‘The Face Reader’ และ ‘No Breathing’
แค่นี้ก็พูดได้แล้วว่าเขาเป็นนักแสดงที่ยุ่งมากที่สุดในบรรดานักแสดงรุ่นราวคราวเดียวกัน ในต้นปีนี้เขาก็ได้แสดงใน ‘Hot Young Bloods’ และ ‘Doctor Stranger’ ก่อนที่จะได้รับวันหยุดยาว
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ
เอาแต่นอนอยู่บ้าน” คนติดบ้านที่โด่งดังยังพูดด้วยคำพูดที่น่ารักต่ออีกว่า
“ผมรู้สึกว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง
ก็เลยตัดสินใจไปนิวยอร์คครับ
แต่พอถึงวันก่อนจะเดินทาง
ผมก็ดันมาขี้เกียจอีกซะนี่”
ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น
แต่เขาก็ออกมาข้างนอกและตัดสินใจจะทำให้ดีที่สุด มื้อค่ำกับคังโซรา และออกไปดื่มกับผู้ดูแลก่อนหน้านี้
ความตื่นเต้นของเขาสามารถมองเห็นได้จากการที่เขาแสดงออกมา
สัมภาษณ์แรกหลังจากจบ Doctor Stranger เขาตอบคำถามเราด้วยท่าทีเป็นมิตร ไม่มีข้อแม้ใด ๆ ตลอดเวลาสองชั่วโมง ไม่มีวอกแวกและจบลงด้วยความซื่อตรง
KR –
ENG : hitoritabi@tumblr.com
Please
Take Out With Full Credit.
ขอบคุณที่ช่วยทรานคะ
ตอบลบขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ ยาวมั่กๆ อ่านกันเต็มอิ่มไปเลย
ตอบลบ(ก็ไม่ได้สัมภาษณ์ นานแล้วนี่เนาะ)
น้องยังตอบคำถามตรงไปตรงมาเหมือนเดิม แต่รอบนี้รู้สึกน้องเหงาๆแฮะ
จซชีวิตเหงาๆ เหมือนเราตรงที่ใช้เวลาทั้งหมดไปกับจินตนาการ เข้าใจเลยว่าทำไมไม่ค่อยมีเพื่อน
ตอบลบและทำไมถึงซาบซึ้งมากเวลาที่ถูกให้ความสำคัญ
จะสนับสนุนจซตลอดไป ขอบคุณที่แปลนะคะ