วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

[แปล] บทสัมภาษณ์อีจงซอก CeCi magazines May 2014 issue.



 CeCi: ด้วยความยินดีนี่เป็นครั้งที่ 6 แล้วที่ฉันได้สัมภาษณ์คุณ ได้ยินมาว่ามีบทส่งมาให้คุณเยอะเลย  Doctor Stranger ที่จะออกอากาศในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้   เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแนวสืบสวนสอบสวน การแพทย์และความโรแมนติก  เรื่องราวเป็นยังไง
จงซอก: ตอนที่ผมกำลังถ่ายทำ ‘Hot Young Bloods’ มีอยู่คืนหนึ่งที่ผมเหนื่อยมากแต่ก็นอนไม่หลับ  ผมก็เลยเริ่มคิดถึงบทที่ผมเอาติดมือมาด้วย  แล้วก็เริ่มที่ ‘Doctor Stranger’ ตอนแรกว่าจะอ่านแค่นิดหน่อยแล้วก็จะนอน  แต่มันน่าสนใจมากก็เลยลงเอยด้วยการที่ผมอ่านจบไปถึง 2 ตอน
บุคลิกหลักของพัคฮุนก็คือคนที่มีบุคลิกเหมือนตัวการ์ตูน  เขาเกิดในเกาหลีใต้แต่ไปโตที่เกาหลีเหนือ  แล้วก็หนีกลับมาเกาหลีใต้ผ่านประเทศฮังการี  เขาใช้ความสามารถที่มีเพื่อเลี้ยงตัวเองที่มหาวิทยาลัยเปียงยางด้วยการทำการผ่าตัดที่มีความเสี่ยง  เพื่อที่จะช่วยให้เขามีเงินมากพอที่จะปกป้องคนรักของเขา  ทุกสถานที่ ๆ เขาไปเขาคือคนแปลกหน้า  จากที่ได้รับมาบทนี้มีการเปลี่ยนแปลง 3 ระดับ   มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่อายุขนาดผมจะได้เจอกับบทแบบนี้  และผมรู้สึกเหมือนว่าคนอื่น ๆ น่าจะรู้จักผมมากขึ้นจากบทนี้  แต่ถึงอย่างนั้น  ผมก็ไม่ได้มั่นใจอย่างเต็มที่ว่าผมจะทำได้ดี  แต่ผมรู้ว่านี้เป็นอะไรที่ผมอยากจะลองทำดู

CeCi: ฉันจำได้ว่าครั้งที่แล้วคุณบอกว่าตารางงานของคุณแน่นมาก  แล้วคุณไม่อยากจะพักเหรอ?
จงซอก: อย่างแรกเลย  ผู้กำกับจินฮยอกคือคนที่ให้ผมได้เดบิวต์ใน ‘Princess Prosecutor’

CeCi: งั้นก็เหมือนกับ No Breathing สิ  ที่คุณเลือกงานเพื่อเป็นการตอบแทนความรู้สึก
จงซอก: ผมคิดมานานแล้วว่าถ้าผมมีโอกาสก็อยากจะตอบแทนความใจดีของผู้กำกับจินฮยอก   ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ในขั้นที่จะตอบแทนอะไรได้มากมาย  แต่ทั้งนี้ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังละครอย่าง ‘On Air’, ‘Shining Inheritance’, ‘The Chaser’ และ ‘Master’s Sun’ เขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก  ผมเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของเขา


CeCi: นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้มีโอกาสเป็นนักแสดงนำเพียงคนเดียว  รู้สึกอย่างไรบ้าง
จงซอก: เป็นอะไรที่หนักหนามากครับ  ผู้กำกับบอกผมว่า  นี่เป็นก้าวหนึ่งของผมในฐานะนักแสดง  เป็นหนทางเดียวที่จะเติบโต  และผมก็อยากจะมั่นใจว่าผมจะนำพาโปรเจคนี้ให้ผ่านได้ด้วยตัวผมเอง

CeCi: ฉันได้ยินมาว่าละครจะดำเนินเรื่องแบบรวดเร็วมาก  คุณมีอะไรอยากจะแนะนำเพื่อให้เราเข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้นไหม
จงซอก: ผมก็กังวลเรื่องนั้นเหมือนกันครับ  และมันก็เป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงต้องไปฝากข้อความไว้ในแฟนคาเฟ่  บอกให้แฟน ๆ ตั้งใจดูตั้งแต่เริ่มเรื่อง  เพื่อที่จะเข้าใจบทที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว  ถึงแม้จะเป็นละครทางการแพทย์  แต่เมื่อคุณดู  คุณจะรู้สึกว่ามันเป็นละครรักโรแมนติกมากกว่า  ถ้าดูโดยไร้อคติ  ก็จะน่าสนใจมากครับ  ผมรู้สึกว่ามันสนุกมาก ๆ ครับ

CeCi: อ๋อ.. โซเชียลมีเดียที่คุณเล่น (me2day) ยังไม่หยุดให้บริการนะ
จงซอก: ผมรู้สึกว่าผมควรจะอัพเดตเรื่องราวของผมให้แฟน ๆ ได้รู้  อย่างข้อความที่บอกว่า  ผมสบายดีนะ  ผมก็เลยเข้าไปที่แฟนคาเฟ่  เคยคิดจะใช้โซเชียลอย่างอื่นนะครับ แต่ก็ยังกลัวว่าจะพูดอะไรแปลก ๆ อัพเซลก้าตอนสติแตกกลางดึกหรืออะไรสักอย่างครับ (หัวเราะ)


CeCi: นี่เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ ‘Korea: As One’ ที่คุณแสดงเป็นชาวเกาหลีเหนือ  แล้วก็เพิ่มศัพท์ทางการแพทย์เข้าไป ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหม
จงซอก: เพราะพัคฮุนไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นชาวเกาหลีเหนือ  เรื่องสำเนียงเลยไม่จำเป็นครับ  ตรงนี้ช่วยลดความลำบากของผมไปได้  ศัพท์ทางการแพทย์เป็นเรื่องยาก  แต่ผมรับมือกับมันได้แล้ว

CeCi: คุณเป็นคนประเภทที่หลับได้ง่ายมากเพียงแค่ทิ้งตัวลงนอน
จงซอก: ถึงจะเป็นแบบนั้น  แต่ผมก็นอนไม่หลับในคืนก่อนที่จะต้องถ่ายฉากเข้าห้องผ่าตัด  สักสองชั่วโมงก่อนจะถ่ายทำ  ผมก็จะตาสว่างเลย(เพราะความกังวล) แล้วตอนนี้ก็ยังอายเวลาที่อยู่หน้ากล้อง  แล้วก็จะอายมากขึ้นอีกถ้าทำพลาด  ผมก็เลยต้องเตรียมตัวเยอะมาก ๆ

CeCi: ในที่สุดคุณก็พ้นจากเครื่องแบบนักเรียนเสียที  อยากจะพูดอะไรไหม  อย่างน้อยที่สุดเรื่องที่คุณกังวลก็หมดไปแล้ว
จงซอก: ใช่เลยครับ  ตอนที่ผมได้รับแต่บทนักเรียน  ผมกังวลมากจริง ๆ ว่าผมจะติดอยู่กับภาพลักษณ์นี้  และเมื่อถึงจุดหนึ่ง  เมื่อผมเริ่มได้รับบทที่หลากหลายความกังวลก็ลดลงไปเองตามธรรมชาติ

CeCi: โชคดีมากที่คำกล่าวที่ว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” กลายมาเป็นความจริงสำหรับคุณ  บทของคุณคืออัจฉริยะ  แต่คุณยังต้องทำงานอย่างหนัก
จงซอก: ในละครเรื่องนี้  เกาหลีเหนือยังไม่ก้าวหน้าเรื่องเทคโนโลยีการแพทย์นัก  การวินิจฉัยจะอาศัยสัญชาตญานและการสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง  โดยส่วนตัวแล้ว  ผมก็รอดูว่าอัจฉริยะคนนี้จะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในจอ
ผมอิจฉาคนที่เป็นอัจฉริยะนะ  ผมไม่เคยทำอะไรสำเร็จได้เพียงครั้งเดียว  อย่างเวลาที่อยู่ในต่อหน้ากล้อง  ผมต้องอ่านบทเป็นพันครั้ง  แล้วก็คิดแล้วคิดอีก  อีกอย่างหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าผมขี้ระแวงเกินไป  อย่างเช่น  ก่อนที่จะถ่ายทำซีนอารมณ์  ผมต้องตื่นนอนเร็วขึ้นเพื่อที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง  ถ้าตารางงานเปลี่ยนกะทันหัน  ผมก็จะทำอะไรไม่ถูกเหมือนคนโง่เลยล่ะ
แต่อย่างนั้น  ผมก็คงต้องพูดว่า  ผมเคยมีรูปแบบการแสดงที่จำกัด  เคยตั้งไว้ที่ 1-100  แต่เดี๋ยวนี้  ผมสามารถแสดงได้ตามที่ผมจินตนาการเลย  น่าแปลกใจใช่ไหมล่ะ  แม้ว่าจะถ่ายซีนเดียวกัน  แต่ผมก็แสดงออกได้ต่างกันในแต่ละเทค  ผู้กำกับชมผมด้วยนะ  รู้สึกว่าความสามารถนี้ได้มาเพราะการฝึกฝนแล้วมันก็ทำให้ผมตกใจมาก ๆ เลย


CeCi: ยินดีด้วยนะ  ความมั่นใจในการแสดงที่หนีหายไปก่อนหน้านี้  ได้คืนกลับมาแล้วสินะ
จงซอก: ไม่ใช่แบบนั้นครับ  ตอนที่ผมเห็นว่าตัวเองยังด้อยเรื่องการแสดงนั้นก็อับอายมากพอแล้ว  แล้วถ้ายังปล่อยให้คนอื่นมาบอกก่อนที่ผมจะบอก  ผมก็จะยิ่งอับอายมากขึ้นไปอีก  ผมก็เลยชี้ให้เห็นเองซะเลย  การที่ผมมีอาการกลัวการเป็นจุดสนใจ  ทำให้ผมไม่เหมาะกับวงการบันเทิงเลย  แต่ตอนที่แสดงละคร  อย่างน้อยผมก็สวมบทบาทอื่นเพื่อปกป้องตัวตนที่แท้จริง  มันก็เลยโอเคครับ
ในกรณีอื่นเช่น  อย่างตอนนี้ที่ผมกำลังถ่ายแบบ  แล้วถูกบอกให้พูดอะไรสักสองสามคำ  ถ้าต้องเจอกับงานแบบนี้แบบทันที  ถ้าเป็นพวกเพื่อนผมที่เป็นไอดอล  เขาก็อาจจะพูดอะไรที่ฟังดูประหลาดใจแต่ก็มีความสุขอย่าง “ว้าววว”  แล้วก็สามารถทำงานได้อย่างดี  แต่ถ้าเป็นผมก็จะพูดว่า “อ่า”  แล้วก็เริ่มวุ่นวายในใจ  ช่วงเวลาแบบนี้แหละครับที่ผมจะเริ่มคิดว่านี่มันใช่อาชีพที่ผมจะทำไปตลอดหรือเปล่าเนี่ย (หัวเราะ)

CeCi: ถึงคุณจะกังวลเรื่องพวกนี้มาตลอด  แต่ละครเรื่องที่ผ่านมาของคุณก็ประสบความสำเร็จมาก
จงซอก: เพราะแบบนั้นผมเลยรู้สึกกังวลมาก  พูดตรง ๆ เลยนะครับ  ผมต้องลุกขึ้นมากลางดึกเมื่อเร็ว ๆ นี้  แล้วก็ไปเปิดดูการแสดงที่ผมบันทึกไว้  แล้วก็ฝึกฝนส่วนที่ต้องแสดงต่อจากนั้น  ผมจะรู้สึกดีมากถ้ายังมีบทอยู่ในมือ  ผมกลัวว่าผมอาจจะเสียสติได้ถ้าผมยังเป็นแบบนี้ต่อไป  ผมได้ทุ่มเทพลังงานทุกหยาดหยดที่ผมมีลงไปในละคร  ดังนั้นเวลาที่ไม่ได้ทำงานก็เลยเหมือนว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปเลย  ถึงจะเป็นแบบนั้น  บางครั้งผมก็ยังรู้สึกว่างานของผมยังบกพร่องอยู่


Ceci: “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
จงซอก : ผมหวังว่าผมจะเติบโตมากขึ้นหลังจากละครเรื่องนี้

CeCi: ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ คุณบอกว่าคุณกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการด้านการแสดงของคุณ  ตอนนี้ยังกังวลอยู่ไหม
จงซอก: สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุดก็คือการที่ได้ยินคนอื่นพูดว่าพวกเขาได้เห็นผมในแบบที่แตกต่างออกไปใน ‘Hot Young Bloods’ มันเหมือนว่าข้อจำกัดด้านการแสดงของผมลดลง  เพราะเรื่องนั้นเลยทำให้ผมสบายใจ

CeCi: เหมือนว่าคุณเพิ่งจะหลุดพ้นออกมาจากถ้ำในไซบีเรีย (เปรียบเทียบถึงการที่จงซอกกดดันตัวเองเหมือนการเข้าไปอยู่ในที่หนาวเหน็บ)  ฉันยินดีมากเลยที่ได้ยินแบบนั้น  ระหว่างการโปรโมท ‘The Face Reader’  คุณรู้สึกเหมือนว่าได้อยู่ในสถานที่ ๆ มีผลกระทบต่อจิตใจมาก ๆ เลยใช่ไหม
จงซอก: ตรงจุดนั้น  ผมรู้สึกว่าการแสดงของผมแย่มาก  แล้วก็สูญเสียความเป็นตัวเอง  และตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ผมจะออกมาจากถ้ำนั้น  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าการแสดงในละครเรื่องนี้ของผมมีคุณค่ามากพอที่จะดู


CeCi: น้อยครั้งมากที่คุณจะพูดสิ่งดี ๆ เกี่ยวกับตัวเอง  คำพูดแบบนี้จากคุณให้ความรู้สึกว่าเป็นการชื่นชมที่อบอุ่นจริง ๆ
จงซอก: เรายังไม่รู้คำตอบหรอกครับ  ยังไม่รู้ว่าผมจะผิดหรือถูก  มารอดูว่าผู้ชมจะว่ายังไงกันดีกว่า

CeCi: คุณเป็นพวกติดทีวี  ฉันคิดว่าการที่คุณโชคดีในงานที่ทำมาจากการที่คุณเป็นคนรักละครทีวี
จงซอก: สิ่งเดียวที่ผมสนใจก็คือการดูละครครับ  แต่นี่มีผมคนเดียวเหรอครับที่คิดว่าละครน่าสนใจ (หัวเราะ)

CeCi: เชื่อมั่นในสิ่งที่คุณชื่นชอบเถอะ แล้วอีกอย่าง  คุณได้ยินเสียงหายใจหนัก ๆ แล้วก็ที่ทีมงานต้องกลั้นเสียงกรี๊ดที่เกิดจากความประหลาดใจตอนที่เราถ่ายแบบกันไหม (น่าจะหมายถึงซิกแพคของซอกนะเนี่ย)
จงซอก : เพราะผมต้องมีภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปถึงสามระดับในละคร  ผมก็เลยต้องทำให้แต่ละระดับโดดเด่นจากกัน  ตอนที่อยู่เกาหลีเหนือ    ผมต้องลดน้ำหนักเพื่อให้คนเชื่อในบทบาท  ในตอนเริ่มเรื่อง ผมจะดูเหมือนมีเพียงหนังหุ้มกระดูกเลยครับ

CeCi: ดูเหมือนว่าคุณขัดฟันเพื่อเตรียมตัวรับบทนี้ด้วย
จงซอก: ผมไม่เคยไดเอทหรือฝึกฝนมากเท่านี้มาก่อนเลย  ปกติผมก็ผอมบางมากอยู่แล้ว  ผมก็เลยจำเป็นต้องฟิตร่างกาย  แต่ระหว่างที่ผมไปพบกับคนเขียนบทและผู้กำกับ  ก็มีคนพูดว่า “ฉันเห็นรูปที่คุณถ่ายนะ คุณมีกล้ามสินะ” แล้วพอบทมาถึงผม.... ก็มีซีนที่ต้องอาบน้ำ (หัวเราะ)
ผมก็เลยต้องเริ่มใช้ชีวิตด้วยการทานเพียงแค่มันหวานกับเนื้ออกไก่  ไม่มีใครถามอะไรผมเลย  ไม่แม้แต่จะตรวจสอบความก้าวหน้าของผม  มีแค่ผมที่ต้องลากสังขารไปยิมหลังจากที่ต้องถ่ายทำมาทั้งวัน  มันเครียดมากเลยครับ  มันไม่ง่ายเลยที่จะอดทนกับความต้องการพื้นฐานสามสิ่งของมนุษย์ 


CeCi: ตอนนี้คุณเห็นอะไรในความฝัน
จงซอก: สตูว์มันฝรั่ง! อยากทานปลากหมึกผัดเผ็ดที่เสิร์ฟบนกระทะร้อนด้วยครับ

Ceci: ช่วงนี้มีอะไรที่ทำให้คุณตื่นเต้นไหม
จงซอก: เมื่อคืน  ทีมงานสั่งเกี้ยวเนื้อมาทานกันกลางดึก  ผมทานไม่ได้และไม่สามารถจะแตะต้องมันได้เลย  มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เลยครับ  เป็นช่วงเวลาที่หน้ามืดตาลายจริง ๆ ครับ

CeCi: พูดถึงรางวัลที่เรียกความมั่นใจของคุณกลับมา  ให้รางวัลกับตัวเองที่ทำงานหนักอย่างกับวัวหน่อยสิ (Lee Jong Bull เป็นชื่อที่ใช้เรียกซอกที่ทำงานหนักเหมือนวัน  แล้วคำว่า Bull ก็ออกเสียงคล้ายคำว่า suk)
จงซอก: ผมคิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่คุ้มค่าพอกับรางวัลหรอกครับ  อืมมมม ผมหวังว่าคนอื่นจะพูดว่า “ถึงจะอย่างนั้น แต่เขาก็โตขึ้นนะ” ได้โปรดนะครับ นี่แหละที่ผมต้องการ


Source : andtheyfightcrime (sob)
Eng trans : hitoritabi@tumblr.com
Thai trans : @Bua2be
ติดตามข่าวสารงานแปลเพิ่มเติม http://89linewoobin.blogspot.com
Please Take Out With Full Credit.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น